21/5/53

ขายอะไรดี >> มีไอเดียดีๆมาบอก



คำว่า “จะขายอะไรดี” ถือเป็นคำถามโลกแตกคำถามหนึ่งเหมือนกัน เพราะถ้าเราไปถามใครๆก็จะมีคำตอบให้เราไม่ค่อยจะตรงกันซักเท่าไหร่ เรามาเริ่มค้นหาคำตอบของคำว่าจะขายอะไรดี กันเลยดีกว่าครับ


คุณต้องสำรวจตนเองก่อนว่าพอจะมีความรู้ด้านใดบ้าง หรือพอจะมีประสบการณ์ในเรื่องใดบ้าง แล้วลองนึกถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรามีความรู้ดูว่ามีสินค้าอะไรบ้าง ถ้าเราขายสินค้าที่เรามีความรู้ก็จะง่ายต่อการขายและการตอบคำถามของลูกค้าครับ
แต่ถ้าคุณไม่มีความรู้ หรือยังไม่มีประสบการณ์ ก็ไม่เป็นไรครับ ก็หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าที่เราจะขายสิครับ(จะรู้ได้ยังไงก็ถามผู้ขายนั่นหล่ะครับถามให้ละเอียดยิบเลย แต่ระวังเค้ารำคาญนะ) สำหรับท่านที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะขายสินค้าอะไร และจะขายที่ไหน ผมแนะนำให้ลองเข้าไปดูตามเว็บที่ขายส่งสินค้าชนิดต่างๆ เช่นเว็บ ขายส่ง (ไม่ต้องไปเดินสำเพ็งให้เมื่อยและเปลืองค่ารถ)
ลองไปเลือกดูสินค้า ศึกษาดูหลายๆอย่าง แล้วลองเลือกสินค้าที่เราชอบ หรืออยากจะขายมาสักสามสี่อย่าง แล้วมานึกดูว่าสินค้านั้นเราจะไปขายที่ใดและขายให้ใครได้บ้าง











จะขายอะไรดียกตัวอย่าง เช่น ถ้าเราเอาเสื้อผ้าแฟชั่นไปขายหน้าโรงเรียนอนุบาลก็คงจะขายยากหน้าดูเหมือนกันนะครับยกตัวอย่าง เช่น ถ้าจะไปขายหน้าโรงเรียนอนุบาลก็ควรจะเป็นพวกขนม ของเล่นเด็ก นิทาน หนังสือเด็กหรือชุดของเล่นเด็กแบบให้ความรู้แฝงเพื่อดึงดูดผู้ปกครองของเด็กๆเหล่านั้นใช่มั้ยครับ


ต่อจากการรู้สถานที่ที่จะขายของแล้ว ก็ต้องไปสำรวจสถานที่นั้นๆว่า มีคนอื่นที่ขายสินค้าที่เราจะขายอยู่ก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ลุยเลยครับ แต่ถ้ามีก็ต้องไปสำรวจราคาดูว่าราคาและคุณภาพของเราพอจะสู้ได้รึเปล่า ถ้าสู้ได้ก็ลุยต่อเลยครับ (แต่ผมไม่แนะนำให้ไปขายเลียนแบบคนอื่นนะครับ เพราะบทสรุปก็คือขายตัดราคากันเอง)
ควรขายสินค้าที่แตกต่างไปเลยดีกว่า แต่ก็ต้องทำใจเผื่อไว้นิดนึงนะเพราะถ้าเราขายดีก็ย่อมมีคนพยายามจะมาขายตามอยู่แล้ว เห็นได้ชัดเลยก็คือร้านก๋วยเตี๋ยวบางทีเรียงกันเป็นตับ ไม่เข้าใจว่าถ้าเปลี่ยนไปขายข้าวมันไก่จะขายไม่ได้รึไง
แต่กรณีที่คุณยังทำงานประจำหรือเรียนอยู่แต่อยากหารายได้เสริม ผมมีวิธีจับเสือมือเปล่ามาแนะนำครับ ไม่ต้องลงทุน วิธีก็คือเราไปหาสินค้าตามเว็บขายส่งที่ผมว่าหละครับ แล้วดูสินค้าที่เป็นที่นิยม หรือสินค้าที่น่าจะขายได้ง่ายๆ(มูลค่าไม่สูงมาก) พอได้สินค้าแล้วก็โทรหรือเมล์ถามรายละเอียดทั้งการจัดส่ง ราคา และข้อมูลสินค้ากับผู้ขายเลยครับ พอได้ราคาแล้วก็มาลองลงประกาศขายตามเว็บที่คนเข้าเยอะๆ เช่น sanook, pantip, thaisecondhand เป็นต้น
ลงที่อยู่จริง และเบอร์โทรทั้งมือถือและเบอร์บ้านให้ดูน่าเชื่อถือ โดยบวกกำไรเพิ่มจากราคาที่เราได้นิดหน่อย ก็ขายได้แล้วครับ (แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้า ราคา และความขยันครับ) พอขายได้แล้วค่อยแจ้งที่อยู่ของลูกค้าของเราไปให้ผู้ที่ขายสินค้าให้เราเพื่อจัดส่ง(นายหน้าว่างั้นเหอะ)อีกวิธีนึงก็หาสินค้าที่เว็บ http://www.สินค้าขายส่ง.com/


นั่นหล่ะครับ แต่คราวนี้ลองหาสินค้าที่สามารถนำมาขายให้เพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมชั้นได้ เช่นเสื้อผ้า พอได้สินค้าแล้วเราก็เมล์ไปขอรูปสินค้าหรือก๊อปมาจากเว็บผู้ขายเลยก็ได้ครับ จากนั้นก็นำมาเสนอขายเพื่อนๆเรา ตรงนี้ถ้าเป็นหมวดเสื้อผ้าไม่น่าจะยากนะครับเพราะสินค้าเราถูกกว่าท้องตลาดและต้องใช้ในชีวิตประจำอยู่แล้ว (หายากครับคนที่นั่งรถไปกลับประตูน้ำเพื่อซื้อเสื้อแค่ตัวเดียว)


พอเราให้เพื่อนเลือกสินค้าได้จำนวนหนึ่งแล้วจึงค่อยสั่งสินค้าครับ ให้ผู้ขายส่งEMS ก็ได้จะได้ทันใจลูกค้าเรา (วิธีนี้ต้องมีเพื่อนเยอะและขยันแนะนำครับ)










ละก็อีกวิธีนึงครับถ้ามีทุน ทำรับซื้อของมือสองไปเลยครับ วิธีก็คือไปลงประกาศรับซื้อสินค้ามือสองตามเว็บต่างๆ สมัยนี้มีเยอะแยะครับคนร้อนเงินนำของมาขายราคาถูกๆ (เคยเจอกับตัวครับ จะขายของในบ้านให้เราเพียบเลย ให้เท่าไรก็เอาแต่ขอรับเงินวันนี้ แต่ผมไม่ซื้อนะครับกลัวไม่ใช่ของของเค้า)


พอเริ่มมีสินค้าก็สูตรเดิมครับไปลงประกาศขายเลยบวกกำไรเข้าไป (เผื่อระยะประกันสักเล็กน้อย) คนอยากได้มีเยอะแยะครับ หรือถ้าไม่มีทุนก็ลงประกาศรับซื้อก่อนครับพอมีคนจะนำของมาขายให้ก็บอกว่ารอก่อน จากนั้นค่อยไปประกาศขายครับ (จับเสือมือเปล่าขนานแท้)แต่วิธีนี้ ต้องมีความรู้ในตัวสินค้านะครับ ไม่อย่างนั้นอาจได้ของสภาพไม่ดีมา หรือของตกรุ่นไม่ฮิตแล้วมา จะให้เสียทั้งกำไรและไม่มีลูกค้าครับ


จะขายสินค้าอะไรดีอีกวิธีนึงละกัน วิธีนี้ก็คือเราเป็นผู้ขายส่งซะเองเลยครับ โดยการหาสินค้าที่อยู่ในท้องถิ่นเรามาขาย เพราะสินค้าจากแหล่งที่ผลิตย่อมถูกกว่าที่อื่นอยู่แล้ว พอได้สินค้ามาก็มาลงประกาศขายตามเว็บไซต์ที่ให้ลงประกาศฟรี แนะนำเว็บ www.สินค้าขายส่ง.com ,sanook,pantip,thaisecondhand เป็นต้น หรือซื้อเว็บไซต์สำเร็จรูปก่อนก็ได้ราคาไม่แพงมากหลักร้อยเองครับ ที่ลิงค์ http://myjob.tht.in/?id=12297


วิธีต่างๆดังที่กล่าวมาท่านต้องนำไปประยุกต์ ปรับปรุงเทคนิคให้เข้ากับตัวท่านเอง และต้องขยันครับถึงจะประสบความสำเร็จ หรือถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรครับเพราะวิธีที่ผมแนะนำไป เป็นวิธีที่แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย หนำซ้ำยังได้ประสบการณ์อีกด้วย ถ้าพอเริ่มขายสินค้าได้ก็ค่อยๆขยับขยายกันต่อไปครับ
สุดท้ายนี้ หวังว่าท่านที่อ่านบทความนี้แล้ว จะพอมีคำตอบกับคำถามที่ว่า “จะขายอะไรดี” บ้างนะครับ






ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.สินค้าขายส่ง.com/sell/
ขอขอบคุณภาพสวยๆ : http://www.thaismefranchise.com/





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หากมีข้อซักถาม กรุณาฝากข้อความไว้ ขอบคุณค่ะ